วันจันทร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2556

The Raft of the "Medusa"



Le Radeau de la Méduse(1819) หรือ La Méduse 
  

หรือชื่ออังกฤษว่า The Raft of the Medusa แปลตรงตัวก็ แพของ(เรือ)เมดูซ่า วาดโดยทีโอเดอร์ เกอริโก้ (Théodore Géricault 1791~ 1824) ศิลปินชาวฝรั่งเศส มีผลงานที่มีชื่อเสียงอยู่ไม่น้อยเช่นกัน รู้จักกันว่าเป็นคนที่ชอบวาดม้ามาก
ในสมัยก่อนนั้นยังไม่มีกล้องถ่ายรูปหรือวีดีโอ เมื่อจะมีการถ่ายทอดเหตุการณ์ต่างๆจึงจะกระทำโดยการวาดภาพเป็นส่วนใหญ่ เกอริโก้ได้แรงบัลดาลใจจากเหตุการณ์อันสะเทือนขวัญโลกนี้และใช้เวลากว่า 3 ปีในการวาด เกอริโก้สัมภาษณ์ผู้รอดชีวิต สร้างแพจำลอง ร่างภาพผู้ป่วยในโรงพยาบาล กระทั่งศึกษาศพในห้องเก็บศพเพื่อจะวาดภาพให้สมบูรณ์ที่สุด
ภาพบนผืนผ้าใบขนาดมหึมา (4.71 x 7.16 เมตร) ซึ่งถูกประกาศออกสู่ซาลอนนั้น ตกเป็นที่วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางในแง่การเมืองมากกว่าด้านศิลปะ เกอริโก้จึงนำภาพนี้ไปโชว์ในอังกฤษและได้รับเสียงตอบรับเป็นจำนวน ปัจจุบัน ภาพ"แพของเมดูซ่า"อยู่ที่พิพิธพันธ์รูเบิ้ล
เรือเมดูซ่า เป็นเรือฟรีเกต (เรือทหาร Frigate) ออกเดินทางจากฝรั่งเศสเพื่อมุ่งไปยังเซเนกัลซึ่งเป็นอาณานิคมในขณะนั้นของฝรั่งเศสเมื่อวันที่ 18มิถุนายน 1816 พร้อมกับเรือลูก 3 ลำ บรรทุกทหารและบุคคลมีฐานะทางการเมืองจำนวนหนึ่ง ควบคุมเรือโดยโชมาเลย์ซึ่งเป็นกัปตันเรือมือใหม่ โชมาเลย์ผู้นี้เป็นผู้ดีเก่าที่หนีออกนอกประเทศฝรั่งเศสไประหว่างการปฏิวัติ และเมื่อฝรั่งเศสฟื้นฟูอำนาจกษัตริย์ขึ้นมา ก็ได้รับตำแหน่งกับตันเรือมาอย่างหมาดๆโดยไม่เคยมีประสบการณ์ในการเดินเรือมาก่อนเลย ในภายหลังหนังสือพิมพ์ Correard ได้กล่าวว่าชายผู้นี้แหละที่เป็นสาเหตุแรกสุดของโศกนาฎกรรมของเรือเมดูซ่า

วันที่ 2 กรกฎาคม อีกเพียง 500 กิโลเมตรก่อนถึงจุดหมายปลายทาง เรือเมดูซ่าก็ชนกับหินโสโครกที่แหลมอัลกิน หลังจากพยายามจะพาเรือออกจากหินโสโครกเป็นเวลากว่า 4 วันโดยไม่เกิดผล กับตันโชมาเลย์ก็ตัดสินใจสละเรือและออกคำสั่งให้สร้างแพขนาดใหญ่ขึ้นมา และในวันเดียวกันนั้น แพซึ่งมีเสากระโดงและใบเรือก็เสร็จสิ้น 
ไม่เป็นที่แน่ชัดว่าแพที่ว่านี่ใหญ่แค่ไหน แต่คาดว่าคงใหญ่ไม่ธรรมดาแน่ เพราะโชมาเลย์สั่งให้ผู้โดยสาร ทหารและลูกเรือจำนวน 149 คนลงแพ ส่วนตนเองและคนสำคัญมีตำแหน่งอื่นๆขึ้นเรือชูชีพ เสบียงอาหารที่มอบให้ 149 คนบนแพมีเพียงบิสกิต 12.5 กิโลและน้ำดื่มกับไวน์หลายถัง และนี่ก็ตือจุดเริ่มต้นของโศกนาฎกรรมเรือเมดูซ่า

วันที่ 6 กรกฎาคม แพถูกเชื่อมกับเรือชูชีพด้วยเชือก โดยกลุ่มเรือชูชีพจะเป็นคนพายเรือเพื่อลากแพไปด้วย แต่เมื่อพบกับพายุ เชือกซึ่งเชื่อมแพและเรือเข้าด้วยกันก็ขาด ทิ้งให้แพซึ่งไม่มีหนทางในการเคลื่อนย้ายใดๆถูกคลื่นพัดพาห่างจากฝั่งไปเรื่อยๆ คลื่นขนาดใหญ่ที่โถมเข้ามาก็พัดเอาคนบนแพหลุดหายไปทีละคนสองคน
ในวันนี้ มีทหารเรือ 3 คนเสียสติกระโดดลงทะเล พอตกค่ำก็เกิดการทะเลาะกันเพื่อแย่งน้ำจนมีการแบ่งแยกเป็นกลุ่ม มีคนหลายคนถูกผลักตกน้ำไป

วันที่ 7 กรกฎาคม ในเช้าวันนี้ 65 คนหายไปจากแพและมีศพอยู่บนแพ 7 ศพ หนำซ้ำคนซึ่งวิวาทกันจนเสียสติยังได้ตัดเชือกซึ่งมัดแพเข้าด้วยกันขาด น้ำจึงท่วมขึ้นมาจนถึงหน้าแข้ง อีก 60 กว่าชีวิตที่เหลืออยู่ตกอยู่ในอาการพานิคเพราะความหิวและกระหาย

วันที่ 8 กรกฎาคม เรือชูชีพเดินทางถึงฝั่งโดยปลอดภัย ในขณะที่คนบนแพหิวโหยจนถึงขนาดพยายามเคี้ยวเข็มขัดหนังและเชือก พวกเขาตัดสินใจเอาเนื้อศพมากิน แต่ยังมีสติพอที่จะไม่กินดิบๆ เนื้อถูกนำไปผึ่งแดดก่อนจะกิน

วันที่ 9 กรกฎาคม คนที่ยังรอดชีวิตอยู่เลือกศพที่เน่าน้อยที่สุดเอาไว้เป็นเสบียงและทิ้งที่เหลือลงทะเล แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีการทะเลาะกันเกิดขึ้นอีก คราวนี้เพราะส่วนแบ่งของน้ำดื่ม

วันที่ 10 กรกฎาคม มีคนประมาณ 15 คนทะเลาะกันเพื่อแย่งเนื้อตากแห้ง

วันที่ 12 กรกฎาคม คนเจ็บที่ถูกตัดสินว่าไม่มีทางรอดถูกโยนลงจากแพ ในวันนี้มีผีเสื้อสีขาวบินอยู่เหนือกระโดงแพ ทุกคนจึงคิดว่าชายฝั่งน่าจะอยู่ใกล้ หลายคนตื่นเต้นจนกระโดลงจากแพเพื่อจะว่ายหาฝั่ง แต่ก็ต้องย้อนกลับมาเพราะไม่มีใครมีแรงเหลือพอจะว่ายน้ำไปได้

วันที่ 15 กรกฎาคม หลายคนพยายามฆ่าตัวตาย

วันที่ 17 กรกฎาคม มีเรือปรากฏขึ้นที่เส้นขอบฟ้า แต่ระยะทางไกลเกินไปจนไม่สามารถส่งสัญญาณถึง แม้จะสิ้นหวัง คนที่ยังรอดชีวิตอยู่ก็ดิ้นรนเต็มที่ด้วยการเอาผ้าใบเรือ (ถูกนำมาทำเป็นเต็นท์กันแดดเรียบร้อยแล้ว) มาเขียนตัวอักษรขอความช่วยเหลือ
ในตอนนั้นเอง เรือ"อัลกิสว์"ซึ่งออกมาตามหาพวกเขาผ่านพวกเขาไปในระยะ 3 กิโลโดยไม่มีใครสังเกตุเห็นแพ และในขณะที่เรืออัลกิวส์กำลังจะลับขอบฟ้าไปทิ้งแพให้อยู่ในความสิ้นหวังนั้นเอง คนบนเรือก็สังเกตุเห็นแพและย้อนกลับมารับพวกเขาในที่สุด
ผู้รอดชีวิตที่ถูกช่วยเหลือมาได้ จาก 149 คน เหลือเพียง 15 คนเท่านั้นเอง

ภาพซึ่งเกอริโก้วาด แสดงถึงผู้รอดชีวิตที่ร้องเรียกเรืออากิสว์ ความหวังสุดท้ายซึ่งกำลังจะหายไปจากสายตา
โศกนาฏกรรมของเรือเมดูซ่านี้เกิดจากการเดินเรือที่ผิดพลาดจนทำให้คนมากกว่า 100 คนต้องประสบกับจุดจบอันทารุณ หากความจริงหลายอย่างก็ยังไม่ถูกเปิดเผยเป็นที่แน่ชัด
- เรือเมดูซ่าออกจากท่าเรือไหนของฝรั่งเศส
- เรือลูก 3 ลำในตอนแรก หายไปอยู่ที่ไหน
- เรือชูชีพมีทั้งหมดกี่ลำกันแน่
นอกจากนี้หนังสือพิมพ์ Correard ฉบับที่กล่าวโจมตีกับตันดูโลว่า เดอ โชมาเลย์ว่าเป็นสาเหตุการอับปางของเรือเมดูซ่า ยังถูกสั่งห้ามตีพิมพ์และวางขาย
รูป"The Raft of the Medusa"เองในครั้งแรกก็ถูกพิพิธพันธ์รูเบิ้ลมาซื้อไป แต่เพื่อเก็บให้พ้นจากสายตาสาธารณชนโดยไม่มีการออกโชว์ เกอริโก้จึงเอาภาพตัวเองคืนมาและเดินทางไปยังอังกฤษ


แหล่งที่มา:http://ohx3.exteen.com/20061012/the-raft-of-the-medusa

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น